สรุปนิยายเรื่อง "เด็กชายในชุดนอนลายทาง" (The Boy in the Striped Pyjamas)
โดย จอห์น บอยน์ (เขียน) วารี ตัณฑุลากร (แปล)
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน,กรุงเทพมหานคร พิมพ์ครั้งที่19
แนวหนังสือ วรรณกรรมเยาวชน
เป็นตัวละครหลักของเรื่องอายุเพียง9ขวบ เป็นเด็กฉลาดตรงไปตรงมา และเติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งครัด ไม่ได้อบอุ่นมาก
โดย จอห์น บอยน์ (เขียน) วารี ตัณฑุลากร (แปล)
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน,กรุงเทพมหานคร พิมพ์ครั้งที่19
แนวหนังสือ วรรณกรรมเยาวชน
ตัวละคร หลักๆ
1.บรูโน
ภาพจาก https://pepperrr.net
2.เกรเทล
เป็นพี่สาวของบรูโนอายุ 12 ขวบ
ภาพจาก https://pepperrr.net
ภาพจาก https://pepperrr.net
4.ชมูเอล
ภาพจาก
https://theboyinthestripedpajamasprojectvlad.weebly.com
3.พ่อแม่ของบรูโน
พ่อของบรูโนเป็นทหารหน่วยเอสเอส มีตำแหน่งสำคัญพอสมควร ภาพจาก https://pepperrr.net
4.ชมูเอล
ชมูเอลเป็นคนที่มีเชื้อสายยิว เมื่อเทียบกับบรูโน
ชมูเอลดูจะฉลาดกว่า และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้มากกว่า
ภาพจาก
https://theboyinthestripedpajamasprojectvlad.weebly.com
เรื่องย่อ
บรูโน เด็กชายอายุราว 8-9 ขวบ ต้องย้ายจากบ้านในกรุงเบอร์ลินไปอยู่บ้านใหม่ที่ห่างไกลจากตัวเมือง ใครต่อใครเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า “เอาท์วิธ” บ้านหลังเล็กที่มีแต่ความเงียบเหงาทำให้เขาคิดถึงโรงเรียน เพื่อนสนิททั้งสามคน และบ้านที่จากมา แต่ก็ไม่อาจโต้แย้งอะไรได้ ด้วยเหตุผลสำคัญของครอบครัวที่อธิบายว่าจำเป็นต้องย้ายมาตามงานของพ่อ ซึ่งเป็นนายทหารใหญ่ของกองทัพ ไม่นานนัก เขาก็ได้ค้นพบจากหน้าต่างห้องนอนในบ้านใหม่ว่าที่จริงแล้วบ้านของเขาไม่อาจเรียกว่าเงียบเหงาได้เสียทีเดียว เพราะเมื่อมองพ้นสวนดอกไม้ในบริเวณบ้านไปถึงรั้วหนามสูงใหญ่ที่ทอดยาวไปไกลเกินกว่าจะมองเห็นที่สิ้นสุดก็พบว่าเขามีเพื่อนบ้านนับร้อยคน ทั้งเด็ก คนหนุ่ม และคนแก่ ต่างยืนรวมกันเป็นกลุ่มๆ คนบางกลุ่มถูกล่ามโซ่เอาไว้ บางกลุ่มเข็นรถเข็นแล้วหายลับไปในกระท่อม บางกลุ่มแบกพลั่วโดยมีทหารเดินนำ กลุ่มคนทั้งหมดล้วนเป็นผู้ชายที่โกนผมออกจนหมด และสวมเสื้อผ้าเหมือนกัน คือชุดนอนและหมวกลายทางสีเทา วันหนึ่งบรูโนออกเดินสำรวจไปตามริมรั้วหนามกระทั่งได้เจอกับ ชมูเอล เด็กชายในชุดนอนลายทางที่นั่งอยู่อีกฟากของรั้ว หลังจากนั้นกิจวัตรของบรูโนก็คือการไปนั่งคุยกับชมูเอลพร้อมกับหยิบเอาขนมและอาหารไปให้ แล้วมิตรภาพของทั้งคู่ก็งอกเงยผ่านรั้วหนามจนกระทั่งเกือบปีผ่านไป ในที่สุดพ่อของบรูโนก็ตกลงให้ย้ายลูกๆ กลับไปเบอร์ลิน บรูโนได้บอกเรื่องนี้กับชมูเอลล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนที่จะย้ายออก ขณะเดียวกันเขาก็พบว่าชมูเอลกำลังเศร้าเสียใจเรื่องการหายตัวไปของพ่อ ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยปรึกษากันก็เริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ที่บรูโนจะข้ามไปสำรวจอีกฝั่งของรั้ว โดยให้ชมูเอลหยิบชุดนอนลายทางที่เก็บอยู่ในกระท่อมมาให้เขาเปลี่ยน ซึ่งเวลานั้นก็เป็นช่วงจังหวะพอดีกับที่เขาเพิ่งถูกโกนหัวเพราะติดเหา ทำให้การได้ผจญจัยร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อตามหาพ่อของชมูเอลกลายเป็นสัญญาที่ทำได้จริงในวันถัดมา บรูโนที่เปลี่ยนเสื้อผ้ามุดตัวลอดผ่านรั้วเข้าไปกับชมูเอล ไม่นานนักเสียงนกหวีดจากทหารดังขึ้นให้พวกเขาเดินแถวเพื่อเข้าห้องขนาดยาวที่แม้แต่อากาศก็ดูจะลอดผ่านเข้ามาไม่ได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิทไป และไม่มีใครได้เจอบรูโนอีกเลย
ข้อคิดที่ได้จากนิยายเล่มนี้
ในส่วนของเด็ก
แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพเหนือกฎเกณฑ์ระหว่างเด็กชายชาว
เยอรมัน กับชาวยิว ที่รู้ว่าการแบ่งแยกชาติพันธุ์เป็นเรื่องเหลวไหล
คนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ในทุกๆ ชาติมีคนดีและคนเลวปะปนอยู่
ไม่ได้มีชาติใดเป็นคนเลวหมด และไม่ได้มีชาติใดเป็นคนดีหมด
ในส่วนของผู่ใหญ่
สะท้อนให้เห็นการปฏิบัติตัวของเด็กกับผู้ใหญ่
การทำความเข้าใจกับเด็กสำคัญมาก
อย่าปลูกฝังให้เด็กเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป
และการกระทำบางอย่างของผู้ใหญ่บางทีก็เป็นเรื่องงี่เง่า นำภัยมาสู่ตัวเด็กเอง
ตัวอย่างหนังเรื่อง เด็กชายในชุดนอนลายทาง
โดย
นางสาวสมฤดี รัตนา
รหัสนิสิต 611031105
คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกเคมี
จากการอ่านเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ความเท่าเทียมของมนุษย์มีอยู่ทั่วทุกอาณาเขตบนโลก มันไม่สำคัญว่าคุณเป็นคนชาติใด ศาสนาใด จะรวยหรือจน แต่เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วนั้นก็มีความเท่าเทียมกันเสมอ
ตอบลบน.ส.อุบลวรรณ เพชรห้วยลึก วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ 601031072
อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจคนต่างๆมากขึ้น เข้าใจถึงความเท่าเทียมกันของบุคคล ดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ อ่านแล้วรู้สกอยากอ่านต่อ
ตอบลบนางสาวฤทัยชนก ชูโชค 601031212 วิชาเอกคณิตศาสตร์
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ดิฉันชอบมากที่สุด เป็นเรื่องที่แสดงมุมมองถึงความไม่เท่าเทียมกันของผู้คนทีามีเชื้อชาติ ศาสนาต่างกันสู่การนำความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่อ่านแล้วมีแปลกจากเรื่องอื่นที่ตอนจบมีความสุขแต่เรื่องนี้มีความหดหู่ มีความน่าสนใจปละอินตาม
ตอบลบ601031013 วิชาเอกการวัดฯ
ลบผูจักทำวิเคราะหได้เป็นอย่างดี ข้อคิดที่ได้จากเรื่องก็เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายเเละเป็นจริงตามโลกปัจจุบัน เช่น การเหยียดสีผิว การมองว่าคนเเปลกเป็นคนผิด การอ่านทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ควรค่าเเก่การอ่านจริงๆ ชอบมากๆค่ะ
ตอบลบนางสาวธัญญลักษณ์ อ่อนประสงค์
รหัสนิสิต 601031425 กศ.บ.ภาษาไทย
อ่านแล้วได้ความรู้สอนใจตัวเองว่าไม่ว่าเราจะเป็นศาสนาใด ชาติใด จะรวยหรือจน แต่ยังไงมนุษย์ก็มีความเท่าเทียมกันเสมอ
ตอบลบนางสาว รัชนีวรรณ คงมีชัย รหัสนิสิต611071528.
คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
วิชาเอกเศรษฐศาสตร์
เรื่องนี้ทำให้เห็นถึงสิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ไม่ว่าเราจะเกิดชาติไหน ศาสนาอะไร จะรวยจะจน ถ้าเราเกิดเป็นมนุษย์แล้วเรานั้นทุกคนมีสิทธิเท่าเทียบกันเสมอ
ตอบลบ#นางสาวพิชญานิน มานะจิต601031039วิชาเอกการวัดเเละประเมินทางการศึกษา
ได้อ่านเรื่องเเล้ว ทำให้ได้รู้ถึงว่าการเท่าเทียมของมนุษย์ ไม่ควรเเบ่งชนชั้นกัน
ตอบลบนส.สุทธิดา บุญสร 611071341
เอกการตลาด
ผู้สรุปเรืื่องนี้สรุปเรื่องได้ดี มีภาพตัวละครและตัวอย่างประกอบให้ทำให้อ่านแล้วเห็นภาพไปตามๆกัน และยังสื่อข้อคิดได้ดีว่าการแบ่งแยกชนชาติเป็นเรื่องที่เหลวไหล เราอยู่บนโลกเดียวกันเพราะนั้นแล้วเราควรรักกันไว้
ตอบลบนางสาวยมาภรณ์ ช่วยเอื้อ
รหัสนิสิต 611031539
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ผู้สรุปสรุปได้ดี วิเคราะห์ได้ดี เนื้อหาที่นำมาสรุปเข้าใจง่ายและให้ข้อคิดต่างๆมากมายเกี่ยวกับการแบ่งชนชั้น ทำให้เป็นเรื่องที่สะท้อนสังคมได้ดีเลยทีเดียว.
ตอบลบนางสาวจันจิรา แซ่หล่อ
รหัสนิสิต611031494
สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
จากการที่ได้อ่านบทความนี้ทำให้ได้รู้ว่าสงครามในประวัติศาสตร์ได้บ่งบอกพวกเราเสมอว่าไม่มีผู้ใดที่ได้รับชัยชนะที่แท้จริง มีแต่บาดแผลแห่งประวัติศาสตร์ บาดแผลในจิตใจของคนนับล้านๆ
ตอบลบนางสาวบุษบา บุญนวล
รหัสนิสิต 611031517
สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
เรื่องนี้ทำให้รู้ถึงความมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าเราจะเป็นชาติใด ศาสาใด จะรวยหรือจน มนุษย์ทุกคนต้องมีสิทธิที่เท่ากันทุกคน. เนื้อหา เขียนได้ดีมาก อ่ายง่ายและทำให้เข้าใจถึงเรื่องได้ง่าย นางสาวเอมวิกา เหล็มแล๊ะ 611031571. สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ตอบลบจากการอ่านบทความนี้ เนื้อหาที่สรุปมาเข้าใจง่ายและมีภาพประกอบ ทำให้เข้าใจเรื่องมากขึ้น และเป็นเรื่องที่สะท้อนสังคมได้ดีมาก
ตอบลบนางสาวพาขวัญ คงไพฑูรย์ รหัสนิสิต 611031525
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
จากการที่ได้อ่านบทความชิ้นนี้ได้รู้สึกถึงความหดหู่ เเละสัจธรรมในความเท่าเทียมของคนบนโลกที่ต้องเกิดเเก่เจ็บตายเหมือนกันทุกคนโดยไม่มีข้อเเม้ใดๆทั้งสิ้น
ตอบลบนางสาวอัญชลี วิศวะทรัพย์สกุล รหัสนิสิต 611071238
เอกการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่
คณะเศรษฐศาสตร์เเละบริหารธุรกิจ
คนเราไม่จำเป็นต้องมีดีกันทุกคน แค่มีความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันก็ใช่ชีวิตอย่างมีความสุขได้ครับ
ตอบลบนายอับดุลฮาฟิซ ปูเต๊ะ 611031568 สาขา เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
จากที่ได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้ เด็กทั้ง2คนสื่อให้เห็นว่า การแบ่งแยกชนชาติเป็นเรื่องไร้สาระมาก ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะสัญชาติไหนก็แล้วแต่ อย่างน้อยก็คือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยกัน ไม่มีชาติไหนที่จะดีไปหมดและก็ไม่มีชาติไหนที่จะเลวทั้งหมดเหมือนกัน ทุกๆชาติมีทั้งคนดีและคนวันเลวปะปนอยู่
ตอบลบนายธนวัฒน์ ถนอมนวล รหัสนิสิต 611031507
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
จากการที่ผมได้อ่านนิยายเรื่องนี้ ผมได้เห็นถึงแง่มุมบางอย่างที่คิดว่าไม่ถูกต้องการแบ่งแยกผู้คนจากชนชาติ ผมว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ในโลกนี้ไม่มีใครดีกว่าใครว่าว่า ศาสนา ชนชั้น หรือชนเผ่า คนทุกคนที่เกิดมามีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกันทุกด้าน ไม่ควรไปดูถูก เหยียดหยาม ถ้าหากเราทุกคนมองให้เห็นถึงสิ่งที่กล่าวมาการแยู่ในสังคมที่เป็นสังคมใหญ่ควรจะทำให้มีความเท่าเทียมจึงจะทำให้มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข
ตอบลบนายเสกข์ หาญดี รหัสนิสิต 611031108
คณะศึกษาศาสตรฺ สาขาวิชาเอกเคมี